◉ โพสต์ ล่าสุด New Post

คุณภาพน้ำ ในหน่วยจ่ายกลาง

รูปภาพ
 คำถาม: ในกรณีของการตรวจค่า pH ของน้ำ แล้วได้ค่า pH 9 ขอคำแนะนำการแก้ไขด้วยค่ะ หากตรวจคุณภาพน้ำในหน่วย CSSD แล้วได้ค่า pH = 9 (ซึ่งถือว่าเป็น ด่างเกินไป) มีผลต่อกระบวนการทำความสะอาดและทำให้เกิดปัญหาต่อเครื่องมือแพทย์ เช่น เกิดคราบ การกัดกร่อน และลดประสิทธิภาพของน้ำยาล้าง จึงต้องแก้ไขทันที สาเหตุที่ทำให้ค่า pH ของน้ำสูง (ด่าง) 1. ระบบบำบัดน้ำ (RO/DI) ทำงานผิดปกติ      – น้ำที่ผ่านการแลกเปลี่ยนไอออนอาจมีการล้างเรซิ่นไม่สมบูรณ์ 2. สารเคมีจากการปรับสภาพน้ำ (Softener หรือ Chemical dosing) มากเกินไป      – เช่น โซดาไฟ (NaOH) หรือสารด่างอื่น 3. ตะกอนแร่ธาตุในน้ำดิบสูง      – แร่ธาตุบางชนิดอาจทำให้น้ำมีความเป็นด่างสูง 4. น้ำที่ค้างในระบบนาน      – เกิดการเปลี่ยนแปลงของสมดุลเคมีในน้ำ   ผลกระทบจากน้ำที่มี pH = 9      • ผิวเครื่องมือสแตนเลสถูกทำลาย (pitting corrosion)      • ลดประสิทธิภาพของน้ำยาล้าง (โดยเฉพาะถ้าน้ำยาต้องการสภาพเป็นกลาง)      • เพิ่มคราบด่าง บนผิวเครื่องมือหลังล้างและ...

การคำนวณผลกระทบจาก Carbon Footprint ของเครื่องอบฆ่าเชื้อด้วย Low Temperature Steam Formaldehyde (#9)

การคำนวณผลกระทบจาก Carbon Footprint ของเครื่องอบฆ่าเชื้อด้วย Low Temperature Steam Formaldehyde

ประเด็นสำคัญ

  • ผลกระทบโดยประมาณ: เครื่องอบฆ่าเชื้อด้วย Low Temperature Steam Formaldehyde (LTSF) ขนาด 150 ลิตร ที่มีรอบการทำงาน 2-3 ชั่วโมงต่อรอบ มี Carbon Footprint ประมาณ 2.8-5.6 kg CO₂e รอบ จากการใช้พลังงานไฟฟ้า
  • แหล่งปล่อยหลัก: การใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกหลัก เนื่องจากฟอร์มาลดีไฮด์สลายตัวและไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยตรง
  • ความไม่แน่นอน: การคำนวณนี้อิงจากสมมติฐานเกี่ยวกับการใช้พลังงาน เนื่องจากไม่มีข้อมูลเฉพาะของเครื่อง
  • แนวทางลดผลกระทบ: การใช้พลังงานหมุนเวียนและการจัดการโหลดให้เหมาะสมสามารถลด Carbon Footprint ได้อย่างมีนัยสำคัญ

การคำนวณ Carbon Footprint

เครื่องอบฆ่าเชื้อด้วย LTSF ขนาด 150 ลิตร ใช้พลังงานไฟฟ้าประมาณ 5-10 kWh ต่อรอบ โดยอิงจากสมมติฐานที่เปรียบเทียบกับเครื่องฆ่าเชื้ออื่น ๆ โดยใช้ Emission Factor ของไฟฟ้าในประเทศไทยที่ 0.563 kg CO₂e/kWh คำนวณได้ว่า Carbon Footprint ต่อรอบคือ 2.8-5.6 kg CO₂e หากใช้งาน 5 รอบต่อวัน ตลอด 365 วันต่อปี ผลกระทบรวมจะอยู่ที่ประมาณ 5.13-10.28 ตัน CO₂e ต่อปี

ข้อจำกัด

การคำนวณนี้ใช้สมมติฐานเนื่องจากไม่มีข้อมูลการใช้พลังงานที่แน่นอนของเครื่อง LTSF ขนาด 150 ลิตร และไม่มีข้อมูลจำนวนรอบต่อปีที่แน่นอน

ข้อเสนอแนะเพื่อลด Carbon Footprint

  • เพิ่มประสิทธิภาพ: จัดโหลดให้เต็มรอบเพื่อลดจำนวนรอบการทำงาน
  • พลังงานสะอาด: ใช้ไฟฟ้าจากแหล่งหมุนเวียน เช่น โซลาร์เซลล์
  • ติดตามการใช้งาน: บันทึกจำนวนรอบเพื่อคำนวณผลกระทบรวมและหาวิธีลดการใช้งานที่ไม่จำเป็น

รายงานการคำนวณผลกระทบจาก Carbon Footprint ของเครื่องอบฆ่าเชื้อด้วย Low Temperature Steam Formaldehyde

วัตถุประสงค์

เพื่อจัดเตรียมข้อมูลสำหรับหน่วยงาน CSSD ในโรงพยาบาลในการลด Carbon Footprint โดยคำนวณผลกระทบจากเครื่องอบฆ่าเชื้อด้วย Low Temperature Steam Formaldehyde (LTSF) ขนาดประมาณ 150 ลิตร ที่มีรอบการทำงาน 2-3 ชั่วโมงต่อรอบ การคำนวณนี้ครอบคลุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากพลังงานไฟฟ้า (Scope 2)

ขอบเขตการคำนวณ

  • Scope 2: การปล่อยทางอ้อมจากการใช้พลังงานไฟฟ้าในการทำงานของเครื่อง
  • Scope 1: ไม่รวม เนื่องจากฟอร์มาลดีไฮด์สลายตัวและไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยตรง
  • Scope 3: ไม่รวม เนื่องจากต้องใช้ข้อมูลเพิ่มเติม เช่น การผลิตฟอร์มาลดีไฮด์หรือการจัดการของเสีย

ข้อมูลที่ใช้ในการคำนวณ

ข้อมูลต่อไปนี้ใช้ในการคำนวณ โดยบางส่วนเป็นสมมติฐานเนื่องจากไม่มีข้อมูลเฉพาะจากเครื่องจริง:

พารามิเตอร์ ค่า
ขนาดเครื่อง         150 ลิตร
รอบการทำงาน         2-3 ชั่วโมงต่อรอบ (ใช้ค่าเฉลี่ย 2.5 ชั่วโมง)
การใช้พลังงานไฟฟ้า         5-10 kWh ต่อรอบ (สมมติฐานจากเครื่องขนาดใกล้เคียง)
Emission Factor สำหรับไฟฟ้า         0.563 kg CO₂e/kWh (จาก TGO, 2023)
จำนวนรอบต่อวัน         5 รอบต่อวัน (สมมติฐานสำหรับการคำนวณต่อปี)

ขั้นตอนการคำนวณ

การปล่อยจากพลังงานไฟฟ้า (Scope 2)

  • การใช้ไฟฟ้าต่อรอบ: 5-10 kWh
  • การปล่อย CO₂e = การใช้ไฟฟ้า × Emission Factor
    • สำหรับ 5 kWh:
      [5 , \text{kWh} \times 0.563 , \text{kg CO₂e/kWh} = 2.815 , \text{kg CO₂e}]
    • สำหรับ 10 kWh:
      [10 , \text{kWh} \times 0.563 , \text{kg CO₂e/kWh} = 5.63 , \text{kg CO₂e}]
  • การปล่อยรวมต่อรอบ: 2.8-5.6 kg CO₂e

การคำนวณต่อปี

  • สมมติใช้งาน 5 รอบต่อวัน:
    • สำหรับ 2.815 kg CO₂e/รอบ:
      [5 , \text{รอบ/วัน} \times 2.815 , \text{kg CO₂e/รอบ} = 14.075 , \text{kg CO₂e/วัน}]
    • สำหรับ 5.63 kg CO₂e/รอบ:
      [5 , \text{รอบ/วัน} \times 5.63 , \text{kg CO₂e/รอบ} = 28.15 , \text{kg CO₂e/วัน}]
  • รวมต่อปี (365 วัน):
    • สำหรับ 14.075 kg CO₂e/วัน:
      [14.075 , \text{kg CO₂e/วัน} \times 365 , \text{วัน} = 5,132.375 , \text{kg CO₂e} \approx 5.13 , \text{ตัน CO₂e}]
    • สำหรับ 28.15 kg CO₂e/วัน:
      [28.15 , \text{kg CO₂e/วัน} \times 365 , \text{วัน} = 10,275.75 , \text{kg CO₂e} \approx 10.28 , \text{ตัน CO₂e}]
  • การปล่อยรวมต่อปี: 5.13-10.28 ตัน kg CO₂e

การปล่อยจากฟอร์มาลดีไฮด์

  • ฟอร์มาลดีไฮด์ที่ใช้ในกระบวนการ LTSF มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิต แต่ไม่มีข้อมูลปริมาณการใช้ฟอร์มาลดีไฮด์ต่อรอบ
  • เนื่องจากขาดข้อมูลเฉพาะ การคำนวณนี้จึงเน้นที่การปล่อยจากพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นส่วนที่โรงพยาบาลสามารถควบคุมได้

ข้อจำกัดและความไม่แน่นอน

  • สมมติฐาน: การคำนวณใช้สมมติฐานเกี่ยวกับการใช้พลังงาน (5-10 kWh ต่อรอบ) เนื่องจากไม่มีข้อมูลจากผู้ผลิตหรือการใช้งานจริง
  • ข้อมูลท้องถิ่น: Emission Factor อิงจากค่าเฉลี่ยของประเทศไทย หากโรงพยาบาลใช้แหล่งพลังงานที่แตกต่าง ผลลัพธ์อาจเปลี่ยนแปลง
  • จำนวนรอบ: ไม่มีข้อมูลการใช้งานจริง จึงสมมติ 5 รอบต่อวันเพื่อประเมินผลกระทบต่อปี
  • Scope 3: ไม่รวมการปล่อยจากกระบวนการผลิตฟอร์มาลดีไฮด์หรือการจัดการของเสีย ซึ่งอาจมีผลกระทบเพิ่มเติม

ข้อเสนอแนะเพื่อลด Carbon Footprint

เพื่อช่วยหน่วยงาน CSSD ลด Carbon Footprint จากเครื่องอบฆ่าเชื้อด้วย LTSF มีข้อเสนอแนะดังนี้:

  1. เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน:

    • จัดกลุ่มอุปกรณ์ให้เต็มความจุต่อรอบเพื่อลดจำนวนรอบการทำงาน
    • ตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
    • หากเป็นไปได้ อัปเกรดเป็นรุ่นที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น
  2. ใช้พลังงานหมุนเวียน:

    • เปลี่ยนมาใช้พลังงานจากแหล่งสะอาด เช่น ไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ เพื่อลด Emission Factor ของไฟฟ้า
    • ใช้ระบบจัดการพลังงานในโรงพยาบาลเพื่อลดการใช้ไฟฟ้าโดยรวม
  3. ติดตามและวิเคราะห์การใช้งาน:

    • บันทึกจำนวนรอบการทำงานและการใช้พลังงานเพื่อหาวิธีลดการใช้งานที่ไม่จำเป็น
    • ติดตั้งระบบตรวจสอบพลังงานเพื่อระบุจุดที่สามารถปรับปรุงได้
  4. พิจารณาวิธีการฆ่าเชื้อทางเลือก:

    • สำรวจวิธีการฆ่าเชื้อด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์พลาสมา ซึ่งอาจใช้พลังงานน้อยกว่า (ประมาณ 2.3 kWh ต่อรอบสำหรับบางรุ่น)
    • อย่างไรก็ตาม ต้องตรวจสอบว่าเหมาะสมกับอุปกรณ์ที่ต้องการฆ่าเชื้อหรือไม่

การเปรียบเทียบกับวิธีการฆ่าเชื้ออื่น

เครื่องอบฆ่าเชื้อด้วย LTSF มีข้อดีคือสามารถใช้กับอุปกรณ์ที่ไวต่อความร้อนและความชื้น แต่ใช้พลังงานมากกว่าเครื่องฆ่าเชื้อด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์พลาสมา (ประมาณ 2.3 kWh ต่อรอบ) และอาจน้อยกว่าเครื่องฆ่าเชื้อด้วยไอน้ำแบบมาตรฐาน (40-60 kWh ต่อรอบ) การเลือกวิธีการฆ่าเชื้อควรพิจารณาความเหมาะสมของอุปกรณ์และเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของโรงพยาบาล

ข้อแนะนำสำหรับการดำเนินการต่อ

  • การวัดข้อมูลจริง: โรงพยาบาลควรเก็บข้อมูลการใช้พลังงานไฟฟ้าจริงจากเครื่องเพื่อคำนวณ Carbon Footprint ที่แม่นยำ
  • การประเมินเครื่อง: ตรวจสอบข้อมูลจำเพาะจากผู้ผลิตเพื่อยืนยันการใช้พลังงานและปรับปรุงการคำนวณ
  • การฝึกอบรมบุคลากร: อบรมเจ้าหน้าที่ CSSD เกี่ยวกับวิธีการใช้งานเครื่องอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดการใช้พลังงาน

สรุป

การคำนวณ Carbon Footprint จากเครื่องอบฆ่าเชื้อด้วย LTSF ขนาด 150 ลิตร แสดงผลกระทบประมาณ 2.8-5.6 kg CO₂e ต่อรอบ หรือ 5.13-10.28 ตัน kg CO₂e ต่อปี (สมมติ 5 รอบต่อวัน) โดยส่วนใหญ่มาจากการใช้พลังงานไฟฟ้า การลดผลกระทบสามารถทำได้โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ใช้พลังงานหมุนเวียน และพิจารณาวิธีการฆ่าเชื้อทางเลือก การใช้ข้อมูลจริงจากเครื่องและการบันทึกจำนวนรอบการทำงานจะช่วยให้ผลลัพธ์แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Key Citations

◉ ดูข้อมูลเพิ่มเติม ตามหมวดหมู่เนื้อหา >>

แสดงเพิ่มเติม