◉ โพสต์ ล่าสุด New Post

คุณภาพน้ำ ในหน่วยจ่ายกลาง

รูปภาพ
 คำถาม: ในกรณีของการตรวจค่า pH ของน้ำ แล้วได้ค่า pH 9 ขอคำแนะนำการแก้ไขด้วยค่ะ หากตรวจคุณภาพน้ำในหน่วย CSSD แล้วได้ค่า pH = 9 (ซึ่งถือว่าเป็น ด่างเกินไป) มีผลต่อกระบวนการทำความสะอาดและทำให้เกิดปัญหาต่อเครื่องมือแพทย์ เช่น เกิดคราบ การกัดกร่อน และลดประสิทธิภาพของน้ำยาล้าง จึงต้องแก้ไขทันที สาเหตุที่ทำให้ค่า pH ของน้ำสูง (ด่าง) 1. ระบบบำบัดน้ำ (RO/DI) ทำงานผิดปกติ      – น้ำที่ผ่านการแลกเปลี่ยนไอออนอาจมีการล้างเรซิ่นไม่สมบูรณ์ 2. สารเคมีจากการปรับสภาพน้ำ (Softener หรือ Chemical dosing) มากเกินไป      – เช่น โซดาไฟ (NaOH) หรือสารด่างอื่น 3. ตะกอนแร่ธาตุในน้ำดิบสูง      – แร่ธาตุบางชนิดอาจทำให้น้ำมีความเป็นด่างสูง 4. น้ำที่ค้างในระบบนาน      – เกิดการเปลี่ยนแปลงของสมดุลเคมีในน้ำ   ผลกระทบจากน้ำที่มี pH = 9      • ผิวเครื่องมือสแตนเลสถูกทำลาย (pitting corrosion)      • ลดประสิทธิภาพของน้ำยาล้าง (โดยเฉพาะถ้าน้ำยาต้องการสภาพเป็นกลาง)      • เพิ่มคราบด่าง บนผิวเครื่องมือหลังล้างและ...

เปรียบเทียบผลกระทบด้านคาร์บอนฟุตพรินท์: Crepe Paper vs Non-Woven SMS

เปรียบเทียบผลกระทบด้านคาร์บอนฟุตพรินท์: Crepe Paper vs Non-Woven SMS ในการห่ออุปกรณ์การแพทย์ใน CSSD

ในหน่วยงานปลอดเชื้อกลางหรือ CSSD (Central Sterile Supply Department) การเลือกวัสดุสำหรับห่ออุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่เพียงแต่มีผลต่อประสิทธิภาพในการทำให้ปราศจากเชื้อเท่านั้น แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อ คาร์บอนฟุตพรินท์ (Carbon Footprint) ของโรงพยาบาลในระยะยาวอีกด้วย ปัจจุบัน วัสดุที่ใช้ห่ออุปกรณ์ที่นิยม ได้แก่ Crepe Paper และ Non-Woven SMS (Spunbond-Meltblown-Spunbond) ซึ่งมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ

1. Crepe Paper: วัสดุจากเยื่อกระดาษ

Crepe Paper เป็นกระดาษชนิดพิเศษที่ผ่านกระบวนการขึ้นรูปเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น นิยมใช้ห่ออุปกรณ์ทางการแพทย์ด้วยข้อดีด้านการซึมผ่านของไอน้ำและความสามารถในการสร้างแนวป้องกันจุลชีพ อย่างไรก็ตาม วัสดุชนิดนี้มีข้อเสียในด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม เช่น:

  • การใช้ทรัพยากรธรรมชาติ: กระดาษต้องใช้เยื่อไม้จากป่าไม้ ซึ่งส่งผลให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่า และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) จากการตัดและแปรรูป【1】

  • กระบวนการผลิตที่ใช้พลังงานสูง: การผลิตกระดาษต้องผ่านกระบวนการทางเคมีและใช้พลังงานจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดคาร์บอนฟุตพรินท์ที่สูงขึ้น【2】

  • การย่อยสลาย: แม้จะเป็นวัสดุธรรมชาติ แต่กระดาษเคลือบที่ใช้ในทางการแพทย์มีสารเคมีที่ทำให้การย่อยสลายช้าลง


คาร์บอนฟุตพรินท์โดยประมาณของ Crepe Paper

  • การผลิตกระดาษ 1 กิโลกรัม ปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 1.2-1.5 กิโลกรัม CO₂e【3】

  • หากใช้เป็นจำนวนมากใน CSSD จะมีผลสะสมอย่างมีนัยสำคัญต่อการปล่อยคาร์บอนฟุตพรินท์รายปีของโรงพยาบาล


2. Non-Woven SMS: วัสดุสังเคราะห์แบบไม่ทอ

Non-Woven SMS เป็นวัสดุสังเคราะห์ที่ประกอบด้วยชั้น Spunbond และ Meltblown สลับกัน มีข้อดีหลายประการทั้งในด้านการป้องกันจุลชีพ ความทนทาน และน้ำหนักเบา อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างจากกระดาษ:

  • การใช้วัตถุดิบปิโตรเลียม: SMS ผลิตจากโพลีโพรพิลีน (Polypropylene) ซึ่งเป็นพลาสติกจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี แต่กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพพลังงานที่ดีกว่ากระดาษในบางแง่มุม【4】

  • น้ำหนักเบา: SMS มีน้ำหนักน้อยกว่ากระดาษอย่างมีนัยสำคัญ ช่วยลดการใช้วัตถุดิบและลดพลังงานที่ใช้ในการขนส่ง【5】

  • การรีไซเคิล: แม้จะมาจากพลาสติก แต่โพลีโพรพิลีนสามารถรีไซเคิลได้ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม


คาร์บอนฟุตพรินท์โดยประมาณของ Non-Woven SMS

  • การผลิตโพลีโพรพิลีน 1 กิโลกรัม ปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 1.7-3.0 กิโลกรัม CO₂e【6】

  • อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก SMS ใช้น้ำหนักต่อหน่วยพื้นที่ต่ำกว่ากระดาษมาก จึงลดผลกระทบต่อคาร์บอนฟุตพรินท์ต่อชิ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ


3. เปรียบเทียบผลกระทบโดยสรุป


4. สรุปและข้อเสนอแนะแนวทางการลดคาร์บอนฟุตพรินท์ใน CSSD

  • การเลือกใช้ Non-Woven SMS อาจลดคาร์บอนฟุตพรินท์รวมได้ดีกว่าในระยะยาว เนื่องจากวัสดุมีน้ำหนักเบา ใช้พลังงานขนส่งน้อย และมีศักยภาพในการรีไซเคิลหากมีระบบรองรับที่เหมาะสม

  • การออกแบบการใช้วัสดุอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้เทคนิคการห่อแบบประหยัดชั้นวัสดุ จะช่วยลดปริมาณการใช้วัตถุดิบโดยตรง

  • การบริหารจัดการของเสียหลังการใช้งาน เช่น การจัดเก็บวัสดุรีไซเคิล และลดการเผาทำลายจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มเติม

การตัดสินใจเลือกวัสดุห่ออุปกรณ์ใน CSSD ควรคำนึงถึงทั้งคุณภาพการทำให้ปราศจากเชื้อ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อขับเคลื่อนหน่วยงานสู่การเป็นองค์กรสุขภาพที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง


อ้างอิง

【1】World Wildlife Fund (WWF), “Impact of Pulp and Paper Industry on Forests,” 2022.

【2】Environmental Paper Network, “State of the Global Paper Industry,” 2018.

【3】Global Paper Carbon Footprint Database, Version 2021.

【4】European Nonwovens Association (EDANA), “Nonwoven Sustainability Report,” 2020.

【5】U.S. Environmental Protection Agency (EPA), “Lifecycle Assessment of Nonwoven Materials,” 2019.

【6】Plastics Europe, “Eco-profiles of the European Plastics Industry: Polypropylene (PP),” 2017.



◉ ดูข้อมูลเพิ่มเติม ตามหมวดหมู่เนื้อหา >>

แสดงเพิ่มเติม