มาตรฐานความถี่ในการตรวจสอบคุณภาพน้ำตาม AAMI TIR34
มาตรฐานความถี่ในการตรวจสอบคุณภาพน้ำตาม AAMI TIR34
นอกเหนือจากการกำหนดมาตรฐานคุณภาพน้ำสำหรับกระบวนการ Medical Device Reprocessing แล้ว รายงานทางเทคนิค AAMI TIR34 ยังได้กำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับความถี่ในการตรวจสอบคุณภาพน้ำสำหรับแต่ละขั้นตอนของกระบวนการ เพื่อให้สามารถรักษาคุณภาพน้ำให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานได้อย่างต่อเนคื่อง โดยสามารถสรุปความถี่ในการตรวจสอบได้ดังนี้:
1. การตรวจสอบคุณภาพน้ำ Utility Water
น้ำประเภทนี้ใช้สำหรับขั้นตอนการล้างเบื้องต้น และขั้นตอนการล้างทั่วไปที่ไม่ใช่ขั้นสุดท้ายของการล้างอุปกรณ์ โดยแนะนำให้ตรวจสอบค่าคุณภาพน้ำด้วยความถี่ดังนี้:
- ค่า pH, ความกระด้าง (Hardness), ค่าคลอรีนอิสระ (Free Chlorine), คลอไรด์ (Chloride), และซิลิกา (Silica)
- ตรวจสอบทุกไตรมาส (ทุกๆ 3 เดือน)
- หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงระบบน้ำ, ระบบกรองน้ำ, หรือมีการซ่อมแซมบำรุงรักษาอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
- การตรวจสอบปริมาณแบคทีเรียรวม (Total Viable Bacteria)
- ตรวจสอบทุกเดือน (Monthly)
- หรือเมื่อพบเหตุการณ์ที่อาจมีการปนเปื้อนของระบบน้ำ เช่น การซ่อมแซม หรือหลังจากที่ระบบน้ำหยุดการใช้งานชั่วคราว
2. การตรวจสอบคุณภาพน้ำ Critical Water
น้ำประเภทนี้ใช้สำหรับขั้นตอนสำคัญ โดยเฉพาะการล้างขั้นสุดท้าย (Final Rinse) และขั้นตอนเตรียมก่อนการฆ่าเชื้อ ควรตรวจสอบคุณภาพน้ำอย่างละเอียดในทุกๆ ครั้งที่ใช้งาน และควรมีแผนตรวจสอบคุณภาพน้ำด้วยความถี่ที่สูงขึ้น ดังนี้:
- ค่าการนำไฟฟ้า (Conductivity), ค่า pH, Total Organic Carbon (TOC), คลอไรด์ (Chloride), ความกระด้าง (Hardness), และซิลิกา (Silica)
- ตรวจสอบรายสัปดาห์ (Weekly)
- หรือทุกครั้งก่อนใช้งานในกรณีที่น้ำผ่านกระบวนการพิเศษ (เช่น RO หรือ DI Water)
- การตรวจสอบปริมาณแบคทีเรียรวม (Total Viable Bacteria)
- ตรวจสอบรายสัปดาห์ (Weekly)
- Endotoxin (Bacterial Endotoxin Testing)
- ตรวจสอบรายเดือน (Monthly)
- หรือทันทีที่สงสัยว่ามีความเสี่ยงในการปนเปื้อน หรือระบบมีความผิดปกติ
⸻
แนวทางการปฏิบัติเพื่อการรักษาคุณภาพน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ:
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการปฏิบัติตามมาตรฐาน TIR34 สถานพยาบาลควรกำหนดตารางการตรวจสอบที่ชัดเจน มีการบันทึกผลอย่างเป็นระบบ และทบทวนผลการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงดำเนินการแก้ไขทันทีหากตรวจพบค่าคุณภาพน้ำที่อยู่นอกเกณฑ์กำหนด เพื่อความปลอดภัยสูงสุดต่อผู้ป่วย และประสิทธิภาพของการจัดการกระบวนการ Medical Device Reprocessing ในระยะยาว
...................................................................................