การฆ่าเชื้อสำลีทางการแพทย์
ค้นคว้าเรียบเรียง สุวิทย์ แว่นเกตุ:
ต่อคำถามที่ว่า...เราสามารถนำสำลีเข้าไปทำการอบฆ่าเชื้อด้วย Ethylene Oxide (ETO) ได้มั้ย?
สามารถนำสำลีเข้าไปทำการอบฆ่าเชื้อด้วย Ethylene Oxide (ETO) ได้ แต่ต้องพิจารณาเงื่อนไขและข้อควรระวังต่อไปนี้:
1. คุณสมบัติของสำลี
- สำลีต้องไม่มีสารเคลือบหรือสารเคมีที่อาจทำปฏิกิริยากับ ETO
- ควรเป็นสำลีที่ผ่านการทดสอบว่าเหมาะสมสำหรับการฆ่าเชื้อด้วย ETO (ETO-compatible materials)
2. การเตรียมสำลีก่อนอบฆ่าเชื้อ
- สำลีต้องแห้งสนิทก่อนเข้าเครื่องฆ่าเชื้อ เนื่องจากความชื้นอาจทำให้ ETO ตกค้างในวัสดุ
- บรรจุสำลีในบรรจุภัณฑ์ที่มีความสามารถให้อากาศไหลผ่านได้ เช่น Tyvek หรือวัสดุที่เหมาะสมกับกระบวนการ ETO
3. กระบวนการฆ่าเชื้อด้วย ETO
- ความเข้มข้นของ ETO: ควรตั้งค่าให้เหมาะสมกับประเภทของวัสดุ
- อุณหภูมิ: ควบคุมให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม (37–63°C) เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของสำลี
- ความชื้นสัมพัทธ์: อยู่ในช่วง 30–80% RH
- ระยะเวลาในการฆ่าเชื้อ: ปรับตามขนาดและประเภทของบรรจุภัณฑ์
4. การระบายก๊าซ (Aeration)
- สำลีที่ผ่านกระบวนการ ETO ต้องมีการระบายก๊าซออก (Aeration) อย่างเหมาะสม เพื่อกำจัดสารตกค้าง
- ระยะเวลาการระบายก๊าซขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของสำลีและปริมาณ ETO ที่ใช้
5. การตรวจสอบสารตกค้าง
- ต้องตรวจสอบสารตกค้างของ ETO ให้เป็นไปตามมาตรฐาน เช่น ISO 10993-7 หรือ EN 1422
- ระดับ ETO ที่ตกค้างในสำลีต้องต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดเพื่อความปลอดภัย
ข้อควรระวัง
- สำลีที่บรรจุในปริมาณมากหรืออัดแน่นเกินไปอาจส่งผลให้ ETO ไม่สามารถแทรกซึมได้อย่างทั่วถึง
- หลีกเลี่ยงการใช้สำลีในผลิตภัณฑ์ที่สัมผัสกับเนื้อเยื่อโดยตรง หากไม่มีการตรวจสอบระดับสารตกค้างอย่างเข้มงวด
หากต้องการใช้สำลีในกระบวนการทางการแพทย์ที่ต้องฆ่าเชื้อด้วย ETO แนะนำให้ปรึกษาผู้ผลิตหรือผู้เชี่ยวชาญในกระบวนการฆ่าเชื้อเพื่อความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
..................................................................