◉ โพสต์ ล่าสุด New Post

การคำนวณ Carbon Footprint จากเครื่องอบฆ่าเชื้อด้วยแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ (Ethylene Oxide Sterilizer) (#9)

รูปภาพ
การคำนวณ Carbon Footprint จากเครื่องอบฆ่าเชื้อด้วยแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ (Ethylene Oxide Sterilizer) แสดงวิธีการคำนวณ Carbon Footprint จากเครื่องอบฆ่าเชื้อด้วยแก๊สเอทธิลีนออกไซด์ (EtO) ขนาด 150 ลิตร ที่มีรอบการทำงาน 11-12 ชั่วโมงต่อรอบ ในหน่วยงาน CSSD ของโรงพยาบาล การคำนวณครอบคลุม Scope 1 (การปล่อยโดยตรงจาก EtO) และ Scope 2 (การปล่อยทางอ้อมจากไฟฟ้า) โดยใช้สมมติฐานจากข้อมูลทั่วไป ข้อมูลที่ใช้ในการคำนวณ 1. ขนาดเครื่อง: 150 ลิตร 2. รอบการทำงาน: 11-12 ชั่วโมงต่อรอบ (ใช้ค่าเฉลี่ย 11.5 ชั่วโมง) 3. การใช้พลังงานไฟฟ้า:   สมมติฐาน: เครื่องใช้พลังงานไฟฟ้า 5 kW (อ้างอิงจากเครื่องขนาดใกล้เคียง)   การใช้ไฟฟ้าต่อรอบ: 5 kW × 11.5 ชั่วโมง = 57.5 kWh 4. การใช้แก๊ส EtO:   สมมติฐาน: ใช้ EtO 100 กรัมต่อรอบ (อ้างอิงจากเครื่องขนาดเล็กทั่วไป)   การรั่วไหลของ EtO: สมมติ 1% ของ EtO ที่ใช้ (1 กรัมต่อรอบ) ปล่อยสู่สิ่งแวดล้อม 5. Emission Factor:   ไฟฟ้า (ประเทศไทย): 0.563 kg CO₂e/kWh (จาก TGO, 2023)   EtO: 0.2 kg CO₂e/kg (ประมาณการจากศักยภาพการทำให้เกิดภาวะโลกร้อนของ EtO) ขั้นตอนการคำนวณ...

การฆ่าเชื้อสำลีทางการแพทย์

ค้นคว้าเรียบเรียง สุวิทย์ แว่นเกตุ: 

ต่อคำถามที่ว่า...เราสามารถนำสำลีเข้าไปทำการอบฆ่าเชื้อด้วย Ethylene Oxide (ETO) ได้มั้ย?


สามารถนำสำลีเข้าไปทำการอบฆ่าเชื้อด้วย Ethylene Oxide (ETO) ได้ แต่ต้องพิจารณาเงื่อนไขและข้อควรระวังต่อไปนี้:

1. คุณสมบัติของสำลี

  • สำลีต้องไม่มีสารเคลือบหรือสารเคมีที่อาจทำปฏิกิริยากับ ETO
  • ควรเป็นสำลีที่ผ่านการทดสอบว่าเหมาะสมสำหรับการฆ่าเชื้อด้วย ETO (ETO-compatible materials)

2. การเตรียมสำลีก่อนอบฆ่าเชื้อ

  • สำลีต้องแห้งสนิทก่อนเข้าเครื่องฆ่าเชื้อ เนื่องจากความชื้นอาจทำให้ ETO ตกค้างในวัสดุ
  • บรรจุสำลีในบรรจุภัณฑ์ที่มีความสามารถให้อากาศไหลผ่านได้ เช่น Tyvek หรือวัสดุที่เหมาะสมกับกระบวนการ ETO

3. กระบวนการฆ่าเชื้อด้วย ETO

  • ความเข้มข้นของ ETO: ควรตั้งค่าให้เหมาะสมกับประเภทของวัสดุ
  • อุณหภูมิ: ควบคุมให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม (37–63°C) เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของสำลี
  • ความชื้นสัมพัทธ์: อยู่ในช่วง 30–80% RH
  • ระยะเวลาในการฆ่าเชื้อ: ปรับตามขนาดและประเภทของบรรจุภัณฑ์

4. การระบายก๊าซ (Aeration)

  • สำลีที่ผ่านกระบวนการ ETO ต้องมีการระบายก๊าซออก (Aeration) อย่างเหมาะสม เพื่อกำจัดสารตกค้าง
  • ระยะเวลาการระบายก๊าซขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของสำลีและปริมาณ ETO ที่ใช้

5. การตรวจสอบสารตกค้าง

  • ต้องตรวจสอบสารตกค้างของ ETO ให้เป็นไปตามมาตรฐาน เช่น ISO 10993-7 หรือ EN 1422
  • ระดับ ETO ที่ตกค้างในสำลีต้องต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดเพื่อความปลอดภัย

ข้อควรระวัง

  • สำลีที่บรรจุในปริมาณมากหรืออัดแน่นเกินไปอาจส่งผลให้ ETO ไม่สามารถแทรกซึมได้อย่างทั่วถึง
  • หลีกเลี่ยงการใช้สำลีในผลิตภัณฑ์ที่สัมผัสกับเนื้อเยื่อโดยตรง หากไม่มีการตรวจสอบระดับสารตกค้างอย่างเข้มงวด

หากต้องการใช้สำลีในกระบวนการทางการแพทย์ที่ต้องฆ่าเชื้อด้วย ETO แนะนำให้ปรึกษาผู้ผลิตหรือผู้เชี่ยวชาญในกระบวนการฆ่าเชื้อเพื่อความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์

..................................................................

◉ ดูข้อมูลเพิ่มเติม ตามหมวดหมู่เนื้อหา >>

แสดงเพิ่มเติม