◉ โพสต์ ล่าสุด New Post

คุณภาพน้ำ ในหน่วยจ่ายกลาง

รูปภาพ
 คำถาม: ในกรณีของการตรวจค่า pH ของน้ำ แล้วได้ค่า pH 9 ขอคำแนะนำการแก้ไขด้วยค่ะ หากตรวจคุณภาพน้ำในหน่วย CSSD แล้วได้ค่า pH = 9 (ซึ่งถือว่าเป็น ด่างเกินไป) มีผลต่อกระบวนการทำความสะอาดและทำให้เกิดปัญหาต่อเครื่องมือแพทย์ เช่น เกิดคราบ การกัดกร่อน และลดประสิทธิภาพของน้ำยาล้าง จึงต้องแก้ไขทันที สาเหตุที่ทำให้ค่า pH ของน้ำสูง (ด่าง) 1. ระบบบำบัดน้ำ (RO/DI) ทำงานผิดปกติ      – น้ำที่ผ่านการแลกเปลี่ยนไอออนอาจมีการล้างเรซิ่นไม่สมบูรณ์ 2. สารเคมีจากการปรับสภาพน้ำ (Softener หรือ Chemical dosing) มากเกินไป      – เช่น โซดาไฟ (NaOH) หรือสารด่างอื่น 3. ตะกอนแร่ธาตุในน้ำดิบสูง      – แร่ธาตุบางชนิดอาจทำให้น้ำมีความเป็นด่างสูง 4. น้ำที่ค้างในระบบนาน      – เกิดการเปลี่ยนแปลงของสมดุลเคมีในน้ำ   ผลกระทบจากน้ำที่มี pH = 9      • ผิวเครื่องมือสแตนเลสถูกทำลาย (pitting corrosion)      • ลดประสิทธิภาพของน้ำยาล้าง (โดยเฉพาะถ้าน้ำยาต้องการสภาพเป็นกลาง)      • เพิ่มคราบด่าง บนผิวเครื่องมือหลังล้างและ...

มาตรฐานJCI ตอนที่ 1 ทำความรู้จักกับ JCI

JCI คืออะไร และ ทำอะไร ?

JCI ต่างจาก HA อย่างไร ?

JCI เชื่อถือได้แค่ไหน?

เรียบเรียง: สุวิทย์ แว่นเกตุ

JCI คืออะไร และ ทำอะไร ?

The Joint Commission International (JCI)
เป็นองค์กรอิสระ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพและความปลอดภัย ในการดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วย ให้กับสถานพยาบาลต่างๆ ทั่วโลก

ด้วยการตรวจประเมินอย่างละเอียด และให้การรับรองมาตรฐานคุณภาพแก่สถานพยาบาลที่มีคุณสมบัติเป็นไปตามข้อกำหนด ซึ่งมีพัฒนาการในสหรัฐอเมริกามากว่า 60 ปี จนเป็นที่ยอมรับทั่วโลก 

Joint Commission International (JCI) เป็นองค์กรที่ถือกำเนิดจาก The Joint Commission (สหรัฐอเมริกา) ทั้งสององค์กรเป็นอิสระจากกัน, เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และไม่ขึ้นกับรัฐบาล
มาตรฐานของ JCI  ได้มาจากแม่แบบ รางวัลคุณภาพแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ The Malcolm Baldrige National Quality Award (MBNQA) ซึ่งเป็นต้นแบบรางวัลคุณภาพแห่งชาติที่ทั่วโลกนำไปประยุกต์ใช้ (เช่น TQA=Thailand Quality Award)

JCI เจาะลึกไปถึง “คุณภาพ” ของการรักษาพยาบาล ระหว่าง ผู้ให้การรักษาพยาบาล (Healthcare Provider) ประกอบด้วย
·         สถานพยาบาล (อาคาร สิ่งอำนวยความสะดวก เครื่องมือ อุปกรณ์)
·         บุคลากร (ทุกส่วนไม่เฉพาะแพทย์ พยาบาล)
·         ผู้รับการรักษา (Patient) ซึ่งหมายรวมถึงผลกระทบต่อญาติ และผู้เกี่ยวข้องด้วย

ความท้าทายของ JCI คือความสำเร็จของการรักษาระบบคุณภาพให้ยั่งยืน ขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นตั้งใจและเข้าใจอย่างถ่องแท้ของผู้นำองค์กร ที่ต้องสร้างความเข้าใจแก่บุคลากรทุกส่วน

หากพนักงานทำโดยไม่สมัครใจ ก็จะเป้นเพียงการสนองตอบเป้าหมายทางการตลาดเพื่อได้ Co-Brand จาก JCI มาโฆษณา ให้สามารถปรับอัตราค่ารักษาพยาบาลได้สูงขึ้น

ซึ่งหากบุคลากรมิได้ลงมือทำด้วยจิตสำนึกถึงผลกระทบต่อผู้ป่วย รอบของการรักษาระบบคุณภาพไว้ได้ ก็จะสั้นมาก


JCI ต่างจาก HA อย่างไร ?

ตรวจตาม WORK FLOW เขียนว่าอย่างไร ตรวจตามนั้น ถ้าไม่ทำตามที่เขียนถือว่าไม่ผ่าน
เป็นการตรวจการทำตามที่ตกลงไว้ (ไม่สนใจ Out come) เพราะคาดหวังว่าถ้า process ดี out come ก็ควรจะดี การตรวจไม่ต้องการให้หัวหน้า/ผู้บริหารตอบ  แต่จะมุ่งถามผู้ปฏิบัติ

JCI เน้นว่า เรื่องนั้น มาตรฐานสากลเขียนไว้ว่าอย่างไร
หากมาตรฐานสูงกว่ากฎหมายของประเทศนั้นๆ ให้ยึดมาตรฐานเป็นเกณฑ์  แต่ถ้ามาตรฐานไม่ได้ระบุไว้ ให้ยึดกฎหมายเป็นหลัก


JCI เชื่อถือได้แค่ไหน?

สิ่งที่ทำให้ JCI เป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ คือการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
การกำหนดหรือปรับปรุงมาตรฐานของ JCI แต่ละข้อจะต้องมีผลงานวิจัยที่น่าเชื่อถือสนับสนุน JCI จึงมีการทำงานร่วมกับองค์กรชั้นนำหลายแห่ง  เช่น องค์การอนามัยโลก  (World Health Organization)  เพื่อศึกษาค้นคว้าหาสาเหตุของปัญหา หรือความเสี่ยง และร่วมกันกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด และนำมาจัดทำเป็นมาตรฐานสากลต่อไป

ตัวอย่างเช่น  JCI ร่วมกับองค์การอนามัยโลกจัดทำเป้าหมายความปลอดภัยของผู้ป่วยนานาชาติ (International Patient Safety Goals; IPSG) ซึ่งได้จากการรวบรวมอุบัติการณ์หรือเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ในด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นทั้งหมด มาจัดระดับความเสี่ยง, ความรุนแรง และโอกาสที่จะเกิด แล้วนำมาวิเคราะห์หาสาเหตุ และกำหนดเป็นมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยอย่างปลอดภัยในระดับสากล

◉ ดูข้อมูลเพิ่มเติม ตามหมวดหมู่เนื้อหา >>

แสดงเพิ่มเติม