5 คำถามที่พบบ่อย ในการตรวจสอบคุณภาพ-การทำให้ปราศจากเชื้อ
5คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ การตรวจสอบคุณภาพ-การทำให้ปราศจากเชื้อ
1. ควรจะต้องตรวจสอบคุณภาพ-การทำให้ปราศจากเชื้อ อย่างไรบ้าง?
2. ควรจะต้องตรวจสอบด้วยการทำ สปอร์เทสต์ (Biological monitoring)บ่อยแค่ไหน?3. ถ้ามีการนำอุปกรณ์ Implant มาทำให้ปราศจากเชื้อ ควรจะต้องทำ สปอร์เทสต์ บ่อยแค่ไหน?
4. ควรจะต้องทำอย่างไรถ้าพบผลการทำ สปอร์เทสต์ เป็นบวก(Spore test positive result)?
5. มีอะไรบ้างที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำให้ปราศจากเชื้อ
ควรจะต้องตรวจสอบคุณภาพ-การทำให้ปราศจากเชื้อ อย่างไรบ้าง?
การตรวจสอบ กระบวนการทำให้ปราศจากเชื้อ ไม่สามารถทำเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่จะต้องอาศัยการตรวจสอบร่วมกัน ทั้งทางด้าน การตรวจสอบทางเชิงกล (Mechanical) ทางเคมี (Chemical) และทางชีวภาพ (Biological) ตามเงื่อนไขที่กำหนดมาเพื่อยืนยันประสิทธิภาพการทำให้ปราศจากเชื้อ
ทางเชิงกล (Mechanical)
เป็นการตรวจเช็ค อุณหภูมิ ระยะเวลา และความดัน จากมาตรวัดแสดงผล
เปรียบเทียบกับการพิมพ์รายงานผล จะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
หากมีอันใดอันหนึ่งผิดพลาด แสดงว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น
ทางเคมี (Chemical)
แผ่นตรวจสอบทางเคมี ภายใน (Internal chemical
indicator) จะต้องมีการใส่ทุกห่อ-ซอง
เพื่อให้มั่นใจว่า เข้าไปสัมผัสภายในได้อย่างทั่วถึงทุกห่อ-ซอง
และแผ่นตรวจสอบทางเคมี ภายนอก (External chemical indicator)
จะต้องติดทุกห่อ-ซอง ที่ไม่สามารถมองเห็นแผ่นตรวจสอบทางเคมี
ภายใน ได้จากภายนอก
ผลการเปลี่ยนแปลงของแผ่นตรวจสอบทางเคมี
จะสามารถบอกได้ถึงความสมบูรณ์ และปัญหา ของการทำให้ปราศจากเชื้อ และไม่ควรใช้ห่อ-ซองที่การเปลี่ยนแปลงของแผ่นตรวจสอบทางเคมี ที่ไม่สมบูรณ์
ทางชีวภาพ
(Biological) หรือ Biological
Indicators (BIs) จะสามารถบอกได้ถึงความสามารถในการต้านทานของเชื้อ
และประสิทธิภาพของการฆ่าเชื้อ เช่นสปอร์ Geobacillus or Bacillus species. เพราะว่า สปอร์ที่นำมาใช้ในการทดสอบจะมีจำนวนที่มากกว่า
ที่ปนเปื้อนอยู่กับอุปกรณ์ที่นำมาทำการฆ่าเชื้อ ถ้าสปอร์ตายหมด
จะสามารถยืนยันได้ว่าเชื้อที่ปนเปื้อนอยู่กับอุปกรณ์ จะถูกฆ่าตายหมดเช่นกัน
ควรจะต้องตรวจสอบด้วยการทำ
สปอร์เทสต์ (Biological
monitoring: BI, Spore testing)บ่อยแค่ไหน?
การตรวจสอบประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อที่ถูกต้องจะต้องมีการตรวจสอบด้วย
Biological Indicators (BIs) อย่างน้อยอาทิตย์ละ1 ครั้ง
ผู้ใช้จะต้องใช้งานให้ถูกต้องตามคำแนะนำทั้งตำแหน่งการวางในตัวเครื่อง
และวิธีการใช้งานอย่างถูกต้อง ของหลอดควบคุมและหลอดทดสอบที่ต้องเป็น Lot.ผลิต เดียวกัน และผลของหลอดควบคุมจะต้องเป็นบวก (Positive) เสมอ
นอกจากการตรวจสอบด้วย Biological
Indicators (BIs) ตามปรกติแล้ว ควรจะต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อ
- เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง วัสดุหีบห่อ-ซอง หรือ กล่องบรรจุ (Packaging material or Tray)
- เมื่อมีการอบรมเปลี่ยนแปลง ผู้ดูแลเครื่องใหม่
- เมื่อมีการซ่อมบำรุงรักษาเครื่อง
- เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่เกียวกับวิธีการ Load
ถ้ามีการนำอุปกรณ์
Implant มาทำให้ปราศจากเชื้อ
ควรจะต้องทำ สปอร์เทสต์ บ่อยแค่ไหน?
รอบที่มีการนำอุปกรณ์ Implant มาอบฆ่าเชื้อจะต้องมีการทดสอบด้วย Biological Indicators (BIs) เสมอ และจะต้องรอให้ผลสปอร์เทสต์
ที่อ่านออกมาเป็น ลบ (Negative) จึงจะสามารถนำไปใช้ได้
และผู้ใช้จะต้องใช้งานให้ถูกต้องตามคำแนะนำทั้งตำแหน่งการวางในตัวเครื่อง
และวิธีการใช้งานอย่างถูกต้อง ของหลอดควบคุมและหลอดทดสอบที่ต้องเป็น Lot.ผลิต เดียวกัน และผลของหลอดควบคุมจะต้องเป็นบวก (Positive) เสมอ
ควรจะต้องทำอย่างไรถ้าพบผลการทำ
สปอร์เทสต์ เป็นบวก(Spore
test positive result)?
ถ้า ผลการตรวจสอบทางเชิงกล (e.g., time, temperature, pressure)
ผลการตรวจสอบทางเคมี ทั้งภายในและภายนอก (External & Internal chemical
indicator) ผลออกมาเป็นปรกติ
สามารถบ่งบอกได้ว่าการทำงานของเครื่องปรกติ ถ้าในรอบนั้นผลของสปอร์เทสต์ออกมาเป็นบวก
(Positive) ไม่ได้หมายความว่าเครื่องมีความผิดปรกติ
และไม่จำเป็นต้องมีการเรียกอุปกรณ์กลับ ถ้ารอบนั้นไม่ได้มีการอบฆ่าเชื้อ อุปกรณ์ Implant
อย่างไรก็ตามผู้ใช้ควรหยุดใช้
และให้ทำการเดินเครื่องใหม่พร้อมทำการทดสอบสปอร์เทสต์อีกครั้ง หลังจากที่มีการพบ
ผลบวก (Positive) ก่อนหน้านั้น
และต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่าเครื่องไม่มีความผิดปรกติก่อนกลับมาใช้งานอีกครั้ง
ในกรณีที่เครื่องผิดปรกติและผลยังคงเป็นบวกอยู่จะต้องหยุดใช้เครื่อง
จนกว่าจะมีการแก้ไขให้เรียบร้อย และมีการทดสอบสปอร์เทสต์ สามครั้งติดต่อกัน
ด้วยการเดินเครื่องตู้เปล่า
ในกรณีพบเครื่องผิดปรกติ
ถ้ารอบการอบใดที่ผ่านมามีความสงสัย
ให้เรียกของกลับและนำมาเข้าสู่กระบวนการการทำให้ปราศจากเชื้ออีกครั้ง นำมาห่อบรรจุ
และนำไปอบฆ่าเชื้อใหม่
รอบใหม่ควรมีการทำทดสอบด้วย Biological
Indicators (BIs) และควรมีการบันทึกรายงานไว้
มีอะไรบ้างที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำให้ปราศจากเชื้อ
องค์ประกอบที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการทำให้ปราศจากเชื้อ
สาเหตุ
|
เกิดปัญหา
|
การล้าง
| |
ล้างเครื่องมือไม่สะอาด
|
คราบสกปรกอาจส่งผลต่อ
ประสิทธิภาพของการฆ่าเชื้อ
|
การแพ็ค
| |
แพ็คเครื่องมือไม่เหมาะสม
|
ไม่สามารถผ่านเข้าไปฆ่าเชื้อภายในได้
แพ็คชำรุดเสียหาย
เช่น ละลาย
|
ใช้วัสดุในการแพ็คผิดชนิดของเครื่อง
Sterilizer
|
เป็นอุปสรรค
และไม่สามารถผ่านเข้าไปฆ่าเชื้อภายในได้
|
ปริมาณแพ็คที่มากเกินในแต่ละรอบ
|
ไม่สามารถผ่านเข้าไปถึงในสุดได้
ไม่สามารถไปได้ทั่วถึงทุกห่อ-ซอง
|
Load
ไม่ถูกต้อง
| |
Load
มากเกิน
| |
ไม่เว้นช่องว่างระยะห่างระหว่าแพ็ค
| |
การใช้งานเครื่องไม่ถูกต้อง
| |
การตั้งเวลา
อุณหภูมิไม่เหมาะสม
|
เวลาและอุณหภูมิ
ไม่พอต่อการฆ่าเชื้อ
|
โดย. สุวิทย์ แว่นเกตุ e-mail : swelink1@hotmail.com
Selected
References and Additional Resources
- 1.American Dental Association. Biological indicators for verifying sterilization. J Am Dent Assoc 1988; 117:653–654.
- 2.American Dental Association. Guidelines for infection control in the dental office and the commercial dental laboratory. J Am Dent Assoc 1996;127:672–680.
- 3.Andres MT, Tejerina JM, Fierro JF. Reliability of biologic indicators in a mail-return sterilization-monitoring service: A review of 3 years, Quintessence Intern 1995;25:865–870.
- 4.ANSI/AAMI ST-79 2006/AI:2008 Comprehensive Guide to Steam Sterilization and Sterility Assurance in Health Care Facilities (2008 ed., pages 43–79 and 116).
- 5.Association of Operating Room Nurses. AORN standards and recommended practices for perioperative nursing. 1987;Section III:14.1-III:14.11.
- 6.Association of Operating Room Nurses. Recommended practices for sterilization in perioperative practice settings. In: Fogg D, Parker N, Shevlin D, eds. Standards, Recommended Practices, and Guidelines, Denver: AORN, 2002;333–342.
- 7.Baird RM. Sterility Assurance: Concepts, Methods and Problems. In Russell AD, Hugo WB, Ayliffe GAF, eds. Principles and Practice of Disinfection, Preservation, and Sterilization. Oxford, England: Blackwell Scientific Publications, 3rd edition. Oxford, England: Blackwell Scientific Publications, 1999;787–800.
- 8.CDC. Guidelines for Infection Control in Dental Health-Care Settings, 2003. MMWR, December 19, 2003:52(RR-17).
- 9.CDC Recommended infection control practices for dentistry, 1993. MMWR 1993;42(No. RR-8):1–12.
- 10.Favero MS. Developing indicators for monitoring sterilization. In: Rutala W, ed. Disinfection, Sterilization, and Antisepsis in Healthcare. Washington, DC: Association for Professionals in Infection Control and Epidemiology, Inc.,1998:119–132.
- 11.Garner JS, Favero MS. Guideline for handwashing and hospital environmental control. Atlanta: U.S. Department of Health and Human Services, Public Health Service, CDC, 1985.
- 12.Maki DG, Hassemer CA. Flash sterilization: Carefully measured haste. Infect Control 1987;18:307–310.
- 13.Miller CH, Sheldrake MA. The ability of biological indicators to detect sterilization failures. Am J Dent 1994;7:95–97.
- 14.Miller CH, Palenik CJ. Instrument processing. In: Miller CH, Palenik DJ, eds. Infection Control and Management of Hazardous Materials for the Dental Team, 2nd ed. St. Louis: Mosby, 1998;135–174.
- 15.Miller, CH. Use of spore test for quality assurance in infection control. Am J Dent 2001;14:114.
- 16.Molinari JA, Rosen S, Runnells RR. Heat sterilization and monitoring. In: Cottone JA, Terezhalmy GT, Molinari JA, eds. Practical Infection Control in Dentistry, 2nd ed. Baltimore: Williams & Wilkins, 1996: 149–160.