◉ โพสต์ ล่าสุด New Post

คุณภาพน้ำ ในหน่วยจ่ายกลาง

รูปภาพ
 คำถาม: ในกรณีของการตรวจค่า pH ของน้ำ แล้วได้ค่า pH 9 ขอคำแนะนำการแก้ไขด้วยค่ะ หากตรวจคุณภาพน้ำในหน่วย CSSD แล้วได้ค่า pH = 9 (ซึ่งถือว่าเป็น ด่างเกินไป) มีผลต่อกระบวนการทำความสะอาดและทำให้เกิดปัญหาต่อเครื่องมือแพทย์ เช่น เกิดคราบ การกัดกร่อน และลดประสิทธิภาพของน้ำยาล้าง จึงต้องแก้ไขทันที สาเหตุที่ทำให้ค่า pH ของน้ำสูง (ด่าง) 1. ระบบบำบัดน้ำ (RO/DI) ทำงานผิดปกติ      – น้ำที่ผ่านการแลกเปลี่ยนไอออนอาจมีการล้างเรซิ่นไม่สมบูรณ์ 2. สารเคมีจากการปรับสภาพน้ำ (Softener หรือ Chemical dosing) มากเกินไป      – เช่น โซดาไฟ (NaOH) หรือสารด่างอื่น 3. ตะกอนแร่ธาตุในน้ำดิบสูง      – แร่ธาตุบางชนิดอาจทำให้น้ำมีความเป็นด่างสูง 4. น้ำที่ค้างในระบบนาน      – เกิดการเปลี่ยนแปลงของสมดุลเคมีในน้ำ   ผลกระทบจากน้ำที่มี pH = 9      • ผิวเครื่องมือสแตนเลสถูกทำลาย (pitting corrosion)      • ลดประสิทธิภาพของน้ำยาล้าง (โดยเฉพาะถ้าน้ำยาต้องการสภาพเป็นกลาง)      • เพิ่มคราบด่าง บนผิวเครื่องมือหลังล้างและ...

ทำอย่างไร 4 ปี ไม่เคยทำ สปอร์เทสต์ สามารถผ่าน HA !


นี่คือข้อเท็จจริง ที่ได้ไปทราบมาจากผู้ปฏิบัติงานใน CSSD แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำจังหวัดระดับโรงพยาบาลศูนย์ ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานโรงพยาบาล HA มาแล้ว

หากเราอยู่ในวงการ CSSD เราคงทราบกับโดยทั่วไปถึงมาตรฐานในการทำให้ปราศจากเชื้อที่เกี่ยวกับการใช้ตัวตรวจสอบหรือตัวชี้วัด (Sterilization monitoring control system) หรือที่เรามักจะเรียกกันจนติดปากว่า “อินดิเคเตอร์”

อินดิเคเตอร์” ที่เราใช้กันตามมาตรฐานก็มี 

อันแรก Mechanical indicators ที่ใช้เป็นตัวบ่งชี้ถึงความพร้อมและความสมบูรณ์ในประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง เช่น การทดสอบด้วย Bowie Dick, การดูรายงานผลการทำงานของเครื่องที่แสดงออกมาทางจอภาพหรือทางกระดาษพิมพ์ (Print-out report) และความพร้อมทำงานของเครื่อง (Ready to  use) แสดงให้ทราบ ที่เราสามารถดูจากจอภาพของเครื่อง

อันที่สอง Packing indicators or Chemical indicators ที่ใช้สำหรับตรวจสอบขั้นตอนการทำงานของเครื่องว่าสมบูรณ์หรือไม่ ซึ่งก็จะมี External indicators ที่สามารถบอกได้ว่าผ่านหรือไม่ผ่านกระบวนการ ด้วยการสังเกตุดูได้อย่างชัดเจนจากภายนอกโดยไม่ต้องเปิดเข้าไปดูภายในห่อ เช่น Indicators tape, Dot indicators, label indicators และอินดิเคเตอร์ที่ติดมากับซอง แต่สำหรับการตรวจสอบภายในห่อก็จะใช้ Internal indicators ซึ่งทั้ง External และ Internal indicators จะมีการแบ่งกลุ่มให้ใช้กันตามความเหมาะสมกับความปลอดภัย ตั้งแต่ กลุ่มที่ 1 ถึง 5 (Class 1,2,3,4 and 5)

อันที่สาม Loading indicators or Biological indicators สำหรับตัวชี้วัดตัวนี้เราเรียกกันว่า สปอร์เทสต์ หรือตัวตรวจสอบทางชีวภาพ (Spore test or Biological indicators) ที่อาจจะเห็นกันในรูปแบบของ สปอร์ที่เป็นหลอด (Self-Contain Biological Indicators: SCBI) หรือตอนหลังมาในรูปแบบแพ็คสำเร็จรูป ที่เรียกว่า “พีซีดี” (Process Challenge Devices: PCD) ซึ่งในส่วนของ Biological indicators หรือ Spore test นี้จะใช้เป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญว่าในรอบการอบฆ่าเชื้อนั้นๆของเครื่องสามารถฆ่าเชื้อได้จริง โดยจะต้องมีการนำมาอ่านผลด้วยการอุ่นเพาะเชื้อเปรียบเทียบในภายหลัง

อินดิเคเตอร์ทั้งสามตัวนี้ (Mechanical indicators, Chemical indicators, Biological indicators ) ถือว่ามีความสำคัญจะขาดดัวใดตัวหนึ่งไปไม่ได้ ต้องใช้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมายืนยันซึ่งกันและกันทั้งหมดทั้งสามตัว

ประเด็นข้อมูลที่ผมได้รับรู้มาก็คือ โรงพยาบาล ใช้เครื่องอบฆ่าเชื้อระบบแก๊สเอ็ทธิลีนอ็อกไซด์ (Ethylene oxide gas Sterilizer) อบฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จัดอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงสูง (High risk items) 

ในระยะเวลาที่ผ่านมาไม่เคยใช้ การทำทดสอบด้วยการทำสปอร์เทสต์ หรือตัวตรวจสอบทางชีวภาพ ข้อมูลเท่านี้ทำให้ผมประหลาดใจและเกิดคำถามขึ้นมากมาย... เพราะโรงพยาบาลแห่งนี้ ผ่านการตรวจรับรองมาตรฐานจาก HA มาหลายครั้งแล้ว

สิ่งที่ผมต้องตั้งคำถามก็คือ เกิดอะไรขึ้นกับกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่เกี่ยวข้อง เกิดอะไรขึ้นกับกระบวนการรับรองมาตรฐานของ HA และโรงพยาบาลต้องการอะไร ระหว่างความปลอดภัยที่แท้จริงของคนไข้กับการได้รับรองมาตรฐาน HA


◉ ดูข้อมูลเพิ่มเติม ตามหมวดหมู่เนื้อหา >>

แสดงเพิ่มเติม